หัวใจของการทำ SEO (Search Engine Optimization)

หัวใจของการทำ SEO (Search Engine Optimization) คือการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับข้อกำหนดและแนวทางของเครื่องมือค้นหา เช่น Google เพื่อให้เว็บไซต์ปรากฏในอันดับต้นๆ ของผลลัพธ์การค้นหา นี่คือองค์ประกอบหลักของการทำ SEO

การวิจัยคำหลัก (Keyword Research)

  • การค้นหาและวิเคราะห์คำหลักที่ผู้ใช้ค้นหาในเครื่องมือค้นหา
  • การเลือกคำหลักที่เหมาะสมและมีศักยภาพในการนำพาผู้เข้าชมมายังเว็บไซต์
  • คำหลักของเว็บไซต์ ต้องเป็นคำที่นิยมใช้ค้นหา
  • เป็นคำสั้นๆ เช่น ธุรกิจให้เช่ารถเครน คำหลักควรเป็น “เช่ารถเครน” และนำคำหลักไปแทรกเนื้อหา ของทุกๆหน้าที่เราสร้างขึ้น googleจะรู้ว่าเราให้ความสำคัญกับคำนี้ แต่การนำไปใส่ทุกหน้านั้น ภายใน1 หน้าไม่ควรมีเยอะจนดูเกินความเป็นธรรมชาติ ถ้าหากดูว่าเจาะจงใส่คำนี้มากเกินไป หรือจงใจนั่นเอง อาจจะเป็นสแปมได้
  • หลายคนเคยเห็นว่าเว็บที่ติดหน้าแรกๆบางเว็บ ก็มีคำซ้ำๆกันเยอะๆ นั่นเป็นเพราะว่าเขาทำSEOมาตั้งแต่สมัยปีที่SEOพึ่งเริ่มเข้ามาในบ้านเรา และสะสมคะแนนคนเข้าเว็บมายาวนานจึงยังคงทำให้ติดหน้าแรกๆได้อยู่นั่นเอง

การปรับปรุงเนื้อหา (Content Optimization)

  • การเข้าใจบริการหรือสินค้าของเว็บไซต์นั้นอยากลึกซึ้ง เพื่อที่จะได้คุณภาพของเนื้อหานั้นจริงๆ
  • การสร้างเนื้อหาคุณภาพที่มีคุณค่าสำหรับผู้ใช้และมีการใช้คำหลักอย่างเหมาะสม
  • เขียนเนื้อหาที่น่าสนใจ ตรงประเด็น อธิบายได้อย่างเข้าใจง่าย เพื่อคนที่เข้ามาอานแล้วได้เกิดประโยชน์จริงๆ และจะทำให้ผู้อ่านเว็บไซต์จดจำไว้ว่า เขาได้รับข้อมูลเหล่านี้มาจากแหล่งใด
    และอาจจะนำพาไปสู่เพิ่มการเข้าชมและการแชร์ได้อีกด้วย
  • เพิ่มรูปภาพประกอบเนื้อหาภายในเว็บเข้าไปบ้างเพื่อให้ดูน่าสนใจ และให้ผู้อ่านเข้าใจง่ายเพิ่มขึ้น

การปรับปรุงเทคนิค (Technical SEO)

  • การปรับปรุงโครงสร้างของเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับมาตรฐานของเครื่องมือค้นหา
  • การเพิ่มความเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์ การปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานบนมือถือ และการใช้ URL ที่เหมาะสม
  • ภาพในเว็บไซต์ ควรมีขนาดไม่เกิน300kb. ในการโหลด์เข้าไปในโครงสร้าง แนะนำให้ย่อไฟล์บนคอมพิวเตอร์ก่อนใส่เข้าไปหลังบ้านเว็บแล้ว ดีกว่าการไปย่อไฟล์ด้วยเครื่องมือของหลังบ้านเว็บ เนื่องจาก การทำเว็บgoogleจะส่งAI เข้ามาตรวจสอบดูโครงสร้างของเราทั้งหมด พยายามทำให้ขาวสะอาด ลองนึกภาพดูว่าเรามีรูปภาพ1 รูปนำเข้ามาหลังบ้านแล้วมาย่อไฟล์หลังบ้าน จะมีไฟล์ต้นฉบับ1 แล้วไฟล์ที่แก้ไขอีก1 ทั้งที่จริงเราใช้เพียงแค่1 รูปเท่านั้น และถ้าเราทำแบบนี้กับหลายๆรุป เราจะมีขยะหลังบ้านที่เยอะมากๆ และทำให้พื้นที่การทำเว็บเหลือน้อยลงตามไปด้วย
  • เลือกใช้Host ที่อยู่ประเทศไทย และมีระบบSSLรองรับ หรือผู้ให้บริการที่มี Host สำหรับWordpressโดยตรง

การสร้างลิงก์ (Link Building)

  • การสร้างลิงก์คุณภาพจากเว็บไซต์อื่นมายังเว็บไซต์ของคุณ (Backlinks)
  • การสร้างความสัมพันธ์กับเว็บไซต์อื่นๆ ในวงการเดียวกัน
  • การนำลิงค์ไปแชร์ที่สื่อช่องทางอื่นๆ
  • ส่งlinkg Webที่พึ่งขึ้นออนไลน์ไปให้Googleรับรู้ ผ่านเว็บไซต์ Google Search Consoleและรอให้Googleทำความรู้จักกับเว็บของเราประมาณ7-14วันโดยประมาณ
  • การใส่ Link โทร เมล์ ไลน์ ปุ่มลงทะเบียน การสมัคร shop now สิ่งเหล่านี้เรียกว่า Call to action CTA นั่นเอง
  • ลิงค์ภายใน การสร้างลิงค์ภายในเว็บของตัวเองเช่น การฝังลิงค์ลงบนข้อความที่เป็น Keyword และให้ลิงค์ไปยังอีกหน้าที่เป็นเนื้อหาอธิบายKeywordนั้นๆ ข้อนี้คือศิลปะอย่างมากในการตกแต่งเนื้อหาเพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงไปยังหน้าอื่นๆภายในเว็บของตัวเอง

การวิเคราะห์และติดตามผล (Analytics and Monitoring)

  • การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล เช่น Google Analytics, Google Search Console เพื่อติดตามผลลัพธ์ของการทำ SEO
  • การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับปรุงกลยุทธ์และการดำเนินการให้เหมาะสม เมื่อมีเนื้อหาบทความใหม่ๆเข้ามาในเว็บไซต์ เราสามารถไปส่ง Sitemap ให้googleเข้ามาตรวจดูเนื้อหาใหม่ของเรา ผ่านGoogle Search Console

การปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลง (Adaptation to Changes)

  • การติดตามการเปลี่ยนแปลงในอัลกอริธึมของเครื่องมือค้นหา หรือช่องSearch นั่นเอง
  • การปรับปรุงและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ SEO อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงนั้น

เนื้อหาที่กล่าวมานี้เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น แต่เราจะเห็นได้ว่าทั้ง6 ข้อนี้ไม่สามารถขาดข้อใดข้อ1 ไปได้เลย เพราะทุกอย่างถูกทำเป็นลำดับขั้นตอน การทำSEO ไม่ใช่แค่มีความรู้หลักการแล้วจะทำได้เลย ยังต้องอาศัยทักษะในการคิดวิเคราะห์เนื้อหา และการจัดวางในส่วนต่างๆอีกด้วย หากมีประสบการณ์มามากพอจะสามารถดัดแปลงการทำSEO ได้ค่อนข้างดี เพราะจะใช้ประสบการ์บวกกับการแข่งขันในตอนนี้ เพื่อให้เนื้อหาหรือเว็บไซต์ที่เราทุ่มเททำ ให้ดันขึ้นไปติดบนGoogle ได้อย่างภูมิใจ

การทำ SEO ไม่ใช่เรื่องที่ทำครั้งเดียวจบ แต่เป็นกระบวนการที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เว็บไซต์ของคุณมีประสิทธิภาพและสามารถแข่งกับเว็บไซต์อื่นๆ ในผลลัพธ์การค้นหาได้ค่ะ

หากผู้อ่านที่กำลังศึกษาเรื่องการทำSEO ขอให้เนื้อหานี้ช่วยเพิ่มความเข้าใจแก่ผู้พัฒนาเว็บไปด้วยกันค่ะ